ปี 2567 กำลังจะลาจากไปกับสีสันและปรากฏการณ์อันจัดจ้านของวงการหนังไทยที่ปีนี้ยังสามารถยืนฟอร์มได้ดีในแง่กระแสตอบรับจากแฟน ๆ ด้วยการโกยรายได้ระดับทะลุร้อยล้านบาทได้ต่อเนื่อง เรื่อยมาตั้งแต่ช่วงครึ่งปีแรกสู่ครึ่งปีหลัง กลายมาเป็นอีกหนึ่งปีทองของหนังไทย ที่คอนเทนท์กลับมาสู่สายตาผู้ชมอีกครั้ง

และก็ยังเป็นปีที่เหล่าคณะกรรมการผู้ตัดสินและผู้คัดเลือกจากเวทีรางวัลต่าง ๆ ชั้นนำของเมืองไทย จะต้องเกิดอาการหนักใจไม่น้อย เพราะกลายเป็นว่าปี 2567 เป็นปีที่มีหนังสายแข็งหลาย ๆ เรื่องถาโถมปล่อยของเด็ดกันเป็นว่าเล่น โดยเฉพาะความจัดจ้านทางการแสดงของทีมนักแสดงในผลงานเรื่องต่าง ๆ ที่บอกว่าพบตัวเต็งรางวัลผุดขึ้นมาเพียบ ชนิดที่ว่าล้นทะลักตำแหน่งที่ว่างที่เตรียมไว้ให้ในแต่ละสาขา ที่ต้องมาลุ้นชิงชัยกันว่านักแสดงท่านไหนจะผ่านไปสู่เข้ารอบชิงสุดท้าย

บัดนี้เราก็พอจะมองเห็นเค้าลางได้อย่างไม่เป็นทางการ เกี่ยวกับนักแสดงยอดฝีมือที่ฝากฝังผลงานการแสดงของพวกเขาเอาไว้ในหนังไทยเรื่องฮิตหลายเรื่องในรอบปีที่ผ่านมา ที่คาดว่าจะมีชื่อของพวกเขาติดเป็น 1 ใน 5 ในสาขาทางการแสดงจากเวทีรางวัลชั้นนำต่าง ๆ เช่น รางวัลคมชัดลึก อวอร์ด, รางวัลภาพยนตร์ไทย ชมรมวิจารณ์บันเทิง ไปสู่ปลายทาง รางวัลสุพรรณหงส์ทองคำ

ถึงแม้ว่าปีนี้ความจัดจ้านโดดเด่นจะเป็นการฟาดฟันกันของฝั่งนักแสดงชายเป็นส่วนใหญ่ แต่ทางด้านนักแสดงหญิงก็ไม่อาจจะมองข้ามได้ มาเริ่มต้นที่ตัวเต็งในสาขานักแสดงนำหญิงปีนี้ ที่แน่นอนว่านอนมาก็คือผลงานเดบิวต์การแสดงของ “ยายแต๋ว-อุษา เสมคำ” จากหนังฮิตระดับโลก “หลานม่า” ที่ไม่มีใครกล้าโต้แย้งว่าเป็นการแสดงที่ดีที่สุดในรอบปีนี้ แม้ว่าจะงานแสดงเรื่องแรกของคุณยายก็ตาม

ตามมาไม่ห่างก็คือการแสดงหนังใหญ่เรื่องแรกของสาวมีตำแหน่ง “อิงฟ้า วราหะ” ในผลงานดรามาจัดจ้าน “วิมานหนาม” ที่ถือว่าเป็นการระเบิดพลังทางการแสดงในรูปแบบที่แฟน ๆ ของเธอก็ไม่เคยเห็นมาก่อน ที่คาดว่าเธอจะมีโอกาสได้เก้าอี้นั่งในสาขานี้อีกคน โดยที่ยังมี “ญาญ่า อุรัสยา” จากการแสดงใน “เธอ ฟอร์ แคช” ที่อาจจะติดโผเข้ามาร่วมด้วย กับความน่ารักทางการแสดงอันเป็นธรรมชาติของ “โบ เมลดา” จาก “อนงค์” ก็มีโอกาสทำให้ได้เธอได้เป็น 1 ใน 5 ของรางวัลนักแสดงนำหญิง

สาขานักแสดงนำหญิง

• ตัวเต็งหลัก : อุษา เสมคำ จาก หลานม่า | อิงฟ้า วราหะ จาก วิมานหนาม
• ผู้ร่วมชิงชัย : อุรัสยา เสปอร์บันด์ จาก เธอ ฟอร์ แคช | เมลดา สุศรี จาก อนงค์
• มีโอกาสได้เข้าชิง : รีเบคก้า แพทรีเซีย อาร์มสตรอง จาก ยูเรนัส 2324 | เจนนิษฐ์ โอ่ประเสริฐ จาก แดนสาป

ถัดมาพิจารณากันต่อกับสาขานักแสดงสมทบหญิง ที่ในปีนี้อาจจะไม่ค่อยหวือหวาสักเท่าไหร่นัก แต่ดูเหมือนว่าคนที่น่าจะเจิดจรัสมาแต่ไกลก็คงจะเป็น “สีดา พัวพิมล” กับการแสดงรสจัดใน “วิมานหนาม” ที่กลายเป็นการแสดงเบอร์ต้น ๆ ในหมวดสาขานี้ แบบที่ยังไม่เห็นคู่แข่งคนไหนมาต่อกรได้ ที่ตามมาห่าง ๆ ก็คือ “สฤญรัตน์ โทมัส” เจ้าของวลีเด็ด ‘ลูกชายได้มรดก ลูกสาวได้มะเร็ง’ จากหนัง “หลานม่า” มีโอกาสที่จะมีชื่อติดโผชิงรางวัลสาขานี้

สาขานักแสดงสมทบหญิง

• ตัวเต็งหลัก : สีดา พัวพิมล จาก วิมานหนาม
• ผู้ร่วมชิงชัย : สฤญรัตน์ โทมัส จาก หลานม่า
• มีโอกาสได้เข้าชิง : สโรชา จันทร์กิมฮะ จาก ยูเรนัส 2324 | ชิชา อมาตยกุล จาก Morrison | ณัฐชา นีน่า เจสซิกา พาโดวัน จาก ตาคลี เจเนซิส | ต้นตะวัน ตันติเวชกุล จาก หลานม่า

อย่างที่กล่าวเอาไว้ข้างต้นแล้วว่า หนังไทยปีนี้เป็นปีที่ดุเดือดของกลุ่มนักแสดงชาย มาโฟกัสที่สาขานักแสดงสมทบชายกันก่อน เรียกได้ว่าดุเดือดไม่เบาเลยทีเดียว โดยเฉพาะการมาของทัพนักแสดงชายจากหนังลูกผู้ชาย “วัยหนุ่ม 2544” ที่คาดว่าน่าจะเรียงแถวกันมาแบบยกแผง โดยที่เจิดจรัสสุด ๆ คงต้องยกให้ “เอม ภูมิภัทร” ที่ปล่อยพลังทางการแสดงระดับปรมาณู ที่แสงได้ส่องไปที่เขาอย่างเปล่งประกาย ก้าวขึ้นมาเป็นผู้ชิงชัยแถวหน้าของสาขานี้ได้โดยปริยาย

แต่ก็ยังมีการแสดงที่เห็นพัฒนาการที่ชัดเจนของ “เบนจามิน วาร์นี” จากผู้เข้าแข่งขันเวที AF กลายมาเป็นนักแสดงที่ฝีมือดียิ่งขึ้นเรื่อย ๆ เขาคนนี้ก็มิอาจจะมองข้ามได้ อีกทั้งยังมีตัวแปรสำคัญที่แม้ว่าจะเป็นผลงานการแสดงเรื่องแรก ๆ แต่ทำได้ดีไม่เบากับ “เก่ง หฤษฎ์” จาก “วิมานหนาม” กับความโดดเด่นทะลุจอเกินความคาดหมายของ “วอร์ วนรันต์” ใน “ตาคลี เจเนซิส” ก็อดหมายตามองพวกเขาที่จะติดโผเป็น 1 ใน 5 ไม่ได้เลยจริง ๆ

สาขานักแสดงสมทบชาย

• ตัวเต็งหลัก : ภูมิภัทร ถาวรศิริ จาก วัยหนุ่ม 2544
• ผู้ร่วมชิงชัย : หฤษฎ์ บัวย้อย จาก วิมานหนาม | วนรัตน์ รัศมีรัตน์ จาก ตาคลี เจเนซิส | เบนจามิน วาร์นี จาก วัยหนุ่ม 2544
• มีโอกาสได้เข้าชิง : บรอนต์ ปาลาเร่ จาก แดนสาป | อวัช รัตนปิณฑะ จาก ช.พ.๑ สมรภูมิคืนชีพ | อวัช รัตนปิณฑะ จาก เทอม 3 | สหัสชัย ชุมรุม จาก วัยหนุ่ม 2544 | โจ คัมมินส์ จาก Morrison

และมาถึงสาขาที่น่าจะเดือดดาลสุด ๆ ในปีนี้กับสาขานักแสดงนำชาย เรื่องได้ว่าดีจึ้ง..แบบไม่มีใครยอมใครกันได้เลย นี่น่าจะเป็นสาขาที่ทำให้คณะกรรมการเวทรางวัลต่าง ๆ ต่างพากันหนักใจไม่น้อย เพราะมีพื้นที่และเก้าอี้ให้ผ่านเข้ารอบแค่เพียง 5-6 ที่เท่านั้น แต่ฝีมือของนักแสดงหนุ่มทุกคนก็จัดจ้านเด่นเกินมาตรฐานทุกคน

“บิวกิ้น พุฒิพงศ์” น่าจะสามารถจับจองที่ในฐานะตัวเต็งเบอร์ต้น ๆ ของสาขานี้จากการแสดงใน “หลานม่า” ที่เขาเอาอยู่และทำได้ทำถึงเป็นที่ประจักษ์ของผู้ชม ขณะที่ “เจฟ ซาเตอร์” ก็ดีเด็ดมาก ๆ แม้ว่าจะมีโอกาสแสดงหนังใหญ่เป็นเรื่องแรกใน “วิมานหนาม” แต่เขาก็ตีบทได้แตกกระจุย รับมือกับสถานการณ์ตัวละครได้อย่างทรงพลัง

เสริมด้วยตัวแปรคำสำคัญที่ก้าวขึ้นมาอยู่แถวหน้าอีกคนก็คือ “ณัฏฐ์ กิจจริต” กับการแสดงที่เปี่ยมไปด้วยพลังใน “วัยหนุ่ม 2544” ก็น่าจะหนุนนำส่งให้เขาได้ติดโผเป็น 1 ใน 5 คนสุดท้ายในสาขารางวัลนี้ได้อย่างไม่ยากเย็น และต้องไม่ลืมเพื่อนร่วมแสดง อย่าง “เป้ อารักษ์” กับ “จ๋าย อิชณน์กร” ที่จะมีลุ้นไม่น้อย หากว่าเขาทั้งคู่ถูกจัดส่งเข้าชิงในรางวัลสายแข็งแห่งปีสาขานี้